วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การใช้สมุนไพรกำจัดกลิ่นหนูตาย วิธีธรรมชาติที่สามรถทำเองได้ง่ายๆ







 มีงานหนักคือเฝัาหน้าเครื่องรับวิทยุ ใครที่ไม่มีอะไรทำหลังจากจะช่วยตรวจปรู๊ฟบ้างแล้วก็มองหาที่นอน ใครที่ใช้เก้าอี้ก็ต้องใช้เก้าอี้สามตัวตั้งเรียงสลับพอเหมาะ หาอะไรมาใช้ต่างหมอนเท่านั้น จะว่าไปแล้วการล้มตัวลงนอนไม่มีทางจะหลับได้สนิทเหมือนนอนบ้าน ยิ่งคุณวิจิตรด้วยแล้วไม่ต้องกลับบ้านเพราะอยู่ในย่านทหารเรือแถมต้องฝ่าด่านทหารบกกับตำรวจ๓๐ มิถุนายน ตื่นเช้าล้างหน้า แปรงฟัน (ชื้อหาใหม่พร้อมยาสีฟัน)เส!จสรรพต้องหามื้อเช้ากินกันเองแถวสี่พระยาหากินได้ไม่ยาก ข้าวราดแกงมีตั้งแต่เช้าหรือแม้แต่ข้าวหน้าเป็ด ผมจำไม่ได้ว่าคุณทนงนอนโรงพิมพ์หรือเป็นคุณพูนศิลป็ คนใดคนหนึ่งนี่แหละลังงานว่าให้เอารถออกตระเวนมีผม-เฉลิมและบรรจบพร้อมอนันต์ช่างภาพจุดแรกเลี้ยวไปทางสีลม โรงพยาบาลเลิดสินหัวถนนมีคนได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง เสร็จแล้วย้อนออกมาทางเจริญกรุงเพื่อจะมุ่งไปโรงพยาบาลกลางเก็บจำนวนคนเจ็บและดูรายชื่อคนเจ็บเผื่อจะมีคนสำคัญถูกลูกปีน บรรยากาศตามถนนที่เคยจอแจคับคั่งด้วยยวดยานก็ลดน้อยลงมากทีเดียวจาก'โรงพยาบาลกลางลัดออกมาสำราญราษฎร์-ซนะสงคราม-เข้านางเลิ้ง-ออกพญาไท-แวะปทุมวันแล้วขับรถมาตามถนนอังรืดูนังต์ หยุดตรงสี่แยกก็เห็นรถจี๊ปตระเวนของ “พิมพ์ไทย” ผ่านหน้าไป มีฝ่ายปราบปรามตามไปด้วย เราหยุดรถตรงนั้นมองตามไปก่อนจะตัดสินใจทำอย่างหนึ่งอย่างใด แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจี๊ปฃอง “พิมพ์ไทย” ที่กำลังจะกลับเข้าโรงพิมพ์ที่สีลมนั้น ไกลออกไปเป็นกำลังของทหารเรือที่ตั้งรับ ส่วนทางด้านหลังจี๊ปนักข่าวก็เป็นทั้งตำรวจและทหารบกสาดกระสุนเข้าไปหา เรียกว่าเหมือนเอาจี๊ปคันนั้นเป็นรถกังกำบัง จี๊ปคง สมุนไพรดับกลิ่นหนู ไม่ยอมที่จะถูกใช้แบบนั้น คนขับหักลงคูข้างถนน

 (สมัยนั้นหน้าจุฬาลงกรณ์ฯ มีดูนํ้าค่อนข้างกว้างยาวไปตามแนวถนน)ทุกคนเปียกนํ้ามอมแมมแต่ก็ดีกว่าที่จะมีใครสักคนหรือสองคนถูกลูกปีนเดชะบุญที่ฝ่ายทหารเรือมิได้ยิงสวนออกมา จากสาเหตุนั้นทำให้ทั้งตำรวจ-ทหารบกกระจายกันออกหมอบอยู่ข้างถนน ส่วนจี๊ป “ทิมพํใทย” กสับมากู้เมื่อใดก็ไม่ทราบตกบ่าย ผมถูกปล่อยเดี่ยวพร้อมด้วยกล้องถ่ายรูป คุณอนันต์ส่งกล้องให้พร้อมกับบอกว่า “ฟิล์มตัด” หมายถึงว่า เป็นฟิล์มที่ตัดมาจากกล้องไหนก็ไม่รู้ เอาส่วนที่ถ่ายแล้วออกไปล้าง ส่วนที่เหลือใส่เข้าไปใหม่,ผมไม่ได้ซักอะไรอีก คว้ากล้องได้ก็ออกมาหารถที่จะไปโรงพักกลางกับโรงพยาบาลกลาง เมื่อมาถึงโรงพักกลางแล้วผมก็เตร่เข้าไปที่ห้องขังเผื่อว่าจะพบการจับกุมผู้ต้องหาบ้าง ถามเสมียนเวรก็สันหน้า ไม่พูดอะไรเลยผมจึงตัดสินใจจะเดินไปโรงพยาบาลกลางเพราะไม่ไกลเลยแต่พอเดินมาถึงหัวมุมวัดคณิกาผล (อยู่เยื้อง+โรงพักกลาง) ก็รู้สึกตัวว่ามีใครจับแขนผมไว้ เมื่อหันมาจึงพบว่าเป็นพลตำรวจ “มีเรื่องอะไรหรือ” ผมถาม“ผู้หมวดให้ผมพาคุณไปพบ” เครื่องไล่หนูยี่ห้อไหนดี  นั่นคือคำตอบผมไม่คิดอะไรมากเดินตามพลตำรวจคนนั้นไป ซึ่งพาผมเข้าไปในห้องของร้อยเวร (ผมนึกชื่อไม่ออก) แล้วผมก็ถาม “มีอะไรกับผมหรือครับ”“ขอฟิล์มในกล้องให้ผม”ผมนึกถึงคำของคุณอนันต์ว่าเป็นฟิล์มที่ตัดมาก็จริง แต่เกิดความไม่แน่ใจว่ามีการจำสลับหรือเปล่า ฟิล์มในกล้องอาจจะค้างอยู่ยังไม่ได้ตัดออกก็ได้ ผมนิ่งและตัดสินใจไม่ได้ “เอ้า ว่าไง”เมื่อถูกกระตุ้นเช่นนั้นผมก็ตัดสินใจเอากล้องออกมาและทำอย่างเร็ว คือเปิดหลังกล้องทันทีเพราะถ้าจะมีฟิล์มค้างอยู่ภาพที่ถ่ายไว้ก็จะเสีย๑๒๒ ฝ่าทะเลนํ้าหมึกปรากฏว่าเป็นฟิล์มที่ตัดแล้ว ผมทำไม่รู้ไม่ซี้ม้วนฟิล์มส่งให้โดยดีแล้วนายร้อยเวรผู้นั้นก็สอบปากคำ ด้วยคำถามที่ว่าก่อนหน้านี้แวะที่ไหน ถ่ายรูปหรอเปล่า มีการถ่ายภาพในโรงพักนี้หรือเปล่า ผมตอบตามตรงทุกคำถามดูเหมือนจะมีคำถามอื่นอีก เส!จแล้วก็ให้ผมเซ็นชื่อท้ายคำให้การหลังจากอ่านให้ฟังอีกครั้งแล้วผมยกมือไหว้เพื่อจะลากลับ คว้ากล้องถ่ายรูป

“ยังเอาไปไม่ได้”“ยึดไว้หรือครับ” นายร้อยเวรผู้นั้นพยักหน้า ผมจึงเดินออกมาจากห้องนั้นแล้วกลับเข้าโรงพิมพ์ทันที จากนั้นเล่าเรื่องให้คุณสมบูรณ์ฟังทั้งหมด คุณสมบูรณ์หันไปหยิบโทรศัพท์“ทำอย่างนี้ไม่ได้” คุณสมบูรณ์บ่น แล้วจัดแจงต่อโทรศัพท์ ผมไม่ทราบว่าต่อไปที่ไหนผมจึงหันออกมา ได้ยินคุณสมบูรณ์พูด “ที่นี่หนังสือพิมพ์เดลิเมล์ ผมสมบูรณ์บรรณาธิการพูด ขอพูดกับท่านรอง” ผมชะงักฟัง จึงได้ยินคุณสมบูรณ์พูดต่อด้วยการเล่าเรื่องของผมและถามว่า“ตำรวจ,ไม,มีอำนา1จยิดเอากล้องถ่ายรูป'ไว้ คนของผมไปทำงานตามปกติผมยืนยันครับว่า เราไม่ได้อยู่ข้างไหนทั้งนั้น”เมื่อวางโทรศัพท์แล้วคุณสมบูรณ์จึงบอกว่า “เขาจะลังให้คืนกล้อง”เรื่องที่เกิดขึ้น ผมเล่าให้เพื่อนฝูงฟัง ปรากฏว่าวันนั้นมืการยิงตอบโต้กันระหว่างเครื่องบินเอที ๖ ของกองทัพอากาศที่บินมา ๒ หมู่ หมู่ละ เครื่อง เป้าหมายคือกองเรือรบ กรมอู่ทหารเรือ และยังปรากฏอีกว่าเรือรบหลวงศรีอยุธยาก็ถูกระเบิดจนเอียงกระเท่เร่ เรือยังไม่จมทันที ซึ่งปรากฏต่อมาว่ามืการนำจอมพล ป. พิบูลสงคราม ออกมาจากเรือลำนั้นด้วยความปลอดภัยก่อนพระอาทิตย์จะลาลับฟ้า  สัญญาณคลื่นไล่หนู คุณวิจิตรโผล่เข้ามาสำนักงานพร้อมด้วยผู้ชายคนหนึ่ง ผิวคล้ำ เอาฟิล์มม้วนหนึ่งมายื่นให้คุณสมบูรณ์พร้อมกับบอกว่า “เป็นฟิล์มเรือศรีฯ ที่ถูกทิ้งระเบิด” เมื่อล้างออกมาแล้วเป็นภาพ-ข่าวที่สวยงามมาก “คนถ่ายอยู่บ้านริมนํ้าฝังธน เขาไปหาผม พอรู้ว่าเป็นภาพอะไรกิรีบหารถมาทันที” คุณวิจิตรบอกช่างภาพผู้นี้จะถือว่าเป็นมือสมัครเล่นกิได้ แต่ต่อมานั้นถือว่าเป็นมือฉมัง มีร้านถ่ายภาพชื่อ “โมนาลิซ่า” เป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับพระเครื่องจนขึ้นชื่อลือชาเขาคือประชุม กาญจนวัฒน์ ผู้เริ่มต้นเข้าวงการด้วยภาพเอียงกระเท่เร่ของเรีอรบหลวงศรีอยุธยาที่กล่าวขวัญกันที่วไปในตลาดสี่พระยากับบางรัก ปรากฏว่าข้าวสารขึ้นราคาจาก ก.ก.ละ ๑๕บาท-เป็น ก.ก.ละ ๒๗ บาท เรียกว่าเกือบเท่าตัว หมูเนื้อแดงจาก ก.ก.ละ๑๕ บาทขึ้นเป็น ๑๗ บาท ผักสารพัดขึ้นราคาหมด คนขายบอกว่า กำจัดหนู ซาวสวนผักยังไม่แน่ใจว่าจะยิงกันต่อไปอีกนานไหม แต่มีบางคนบอกว่าเมื่อคืนก่อนยังได้ยินเสียงจอมพล ป. อยู่เลย เห็นว่าพูดมาจากเรือศรีฯ ข่าวคราวจึงอยู่ข้างสับสน สำหรับกองสัญญาณนั้นถูกยึดและข่าวว่ามีการจับผู้การกองสัญญาณ หัวถนนวิทยุด้วยกองสัญญาณนื้ใซ้เป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงรายงานเหตุการณ์ตลอดเวลา จนถึงแค่วันที่ ๓๐ มิถุนายนก็เงียบหายไปผมจะไม่กล่าวถึงการ “จี้” จอมพล ป. โดย น.ต.มนัส จารุภา ให้ยาวความ  เครื่องไล่หนูราคา แต่จะเล่าถึงผลที่ตามมาของเหตุการณ์ที่ฝ่ายก่อการพ่ายแพ้และกลายเป็นกบฏไปทันทีนั้นทำให้มีการเรียกบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปพบโดยขอให้เสนอข่าวและภาพในทางสร้างสรรค์ อย่าเสนอในด้านที่อาจก่อความแตกร้าวได้ ขณะเดียวกันจอมพล ป. ก็ขอบคุณฝ่ายปฏิบัติการของทหารบกและทหารอากาศที่สามารถสยบ “กบฏ” ลงได้ในเวลาไม่นานนัก


เครื่องไล่หนู

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สมุนไพรไล่หนู พืชผักสวนครัวที่สามารถไล่หนูอย่างได้ผล



 รัฐบาลในยุคนั้นไม่ค่อยจะมีการให้สัมภาษณ์แบบล้อมหน้าล้อมหลังอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน เฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีด้วยแล้วการที่จะเอาไมโครโฟนไปจ่อปากพร้อมป้อนคำถามนั้นคงไม่มีใครคิดว่าเป็นไปได้นักข่าวที่หาข่าวการเมืองจึงมักต้องไปเดินท่อมๆ แถวมหาดไทยหรือกระทรวงพาณิชย์ ปัญหาเรื่องข้าวหรือเกษตรฯ กลาโหม เรื่องสาธารณสุข หรือกระทรวงศึกษาธิการน่าจะกล่าวได้ว่า ใครจะทำอะไรก็ทำไป ข่าวลารแทบจะไม่ปรากฏ  บ่อยนัก และนายกรัฐมนตรีก็จะไฝรับรู้หรือแถลงถึงการบริหารงานของกระทรวงที่ท่านไม่ได้สวมหมวกอีกใบ ซึ่งมักจะเป็นกลาโหม อันเป็นกระทรวงกำลังหลักที่สำคัญที่ลุดในยุคนั้นเมื่อจอมพล ป. “มีท เดอะ เพรส” แถมอนุญาตให้เปิดไฮด์ปาร์กวิจารณ์รัฐบาลได้ จะว่าไปก็มีนักการเมืองหลายคนเหมือนกันที่เปิดไฮด์ปาร์กโดยใช้สนามหลวงเป็นสถานที่ มีการตั้งไมโครโฟนขนาดธรรมดาพร้อมขยายเสียงด้วยสำโพงที่ไม่ใหญ่โตอะไรนักระหว่างไฮด์ปาร์กจะมืนายตำรวจนอกเครื่องแบบมาลังเกตการณ์ซึ่งอาจจะเก็บข้อใหญ่ใจความที่พูดไปรายงานหรือไม่นั้นก็สุดรู้ได้เรื่องของการ “มีท เดอะ เพรส’’ นี้ ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเดือนละหนึ่งครั้งเท่านั้น“เดลิเมล์รายวัน” อันเป็นสนามแรกที่เป็นเรื่องเป็นราวหรือทำให้เป็นตัวเป็นตนสำหรับผมก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ก่อนหน้าที่คุณสนิทลาออกมีนักข่าวก้าวเข้ามาไม่น้อยการทำหน้าที่เป็นผู้พิสูจน์อักษรหรือยุคนั้นจะเรียกว่า พนักงานตรวจปรู๊ฟ  ไล่หนูบนฝ้า ของคุณสาร บรรดาศักดิ้ ก็ขยับก้าวขึ้นมาเป็นนักข่าวที่มีผีเมือทีเดียวมี คุณสว่างวงต์ กรีบุตร นักหนังสือพิมพ์รุ่นใหญ่เข้ามา มี สมบุญอมรปัญญา มี กิตติ สุคนธายนต์การทำงาน “เบื้องหลังข่าว” ในนาม “เดลิเมล์” ของคุณสนิทกับผม แถมมีรายปักษ์เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งฉบับ จะว่าไปก็ไม่มีอะไรต้องหนักใจหนังสือที่เกี่ยวกับ

 “เบื้องหลังข่าว” นี้ ค่ายสีลมเป็นผู้ออกมาวางตลาดก่อนใครอื่น “พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว” ผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ก็คือ“พี่อีศรี” หรือคุณอิศรา อมันตกุล นั่นเองเท่ากับว่า เดลิเมล์กับพิมพ์ไทยมีการแข่งขันกันทั้งรายวันและรายเดือน ส่วนนิตยสารอื่นของค่ายสีลมอีกหลายฉบับไม่มีใครต่อกรด้วย“เดลิเมล์วันจันทร์” ภายใต้การดำเนินงานของคุณมานิต ศรีสาครเจ้าของนามปากกา “สีน้ำ” ตอบจดหมายผู้อ่าน ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ติดอกติดใจผู้อ่าน เป็นนิตยสารที่บินเดี่ยวและบินโลดก็ว่าได้คุณสุภัทรอยู่ที่ตรงนั้นไม่นานนักก็ลาออกและไปอยู่กับนิตยสารอื่นซึ่งเป็นที่รู้จักกันไม่น้อย คุณวิจิตร คุณาวุฒิ นัยว่าไปนั่งที่ “ปิยมิตร”นิตยสารที่มี “นายทำดี มีเรือช่วย” เป็นบรรณาธิการ ซึ่งชื่อที่แท้จริงแล้วคือนายสุธรรม์ นาวานุเคราะห์ ผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ฃอเรียก1ว่า “เข้าไล้” กันกับคุณวิจิตรก็ว่าได้ที่นั่น เมื่อผมแวะเวียนไปเยี่ยมหรือพบคุณวิจิตรทำให้ผมได้รู้จักคุณศรีรัตน์ สถาปนวัฒน์  กำจัดหนู นักเขียนผู้โด่งดังในสมัยนั้นด้วย  ในส่วนที่เกี่ยวกับหนังสือพิมพ์รายวัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ถือว่าสำคัญก็ได้ นั่นคือการขยายคอลัมน์บนหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปกติจะจัดแบ่งออกเป็น ๗ คอลัมน์มานานนักหนาแล้ว เพิงจะมาขยายเพิ่มเป็น ๕ คอลัมน์ ตั้งแต่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๙๗ และขอขึ้นราคาขายเป็นฉบับละหนึ่งบาท



สมุนไพรไล่หนู

  (ก่อนหน้านี้คือราวกลางปี ๒๕๙๕ ขึ้นจากห้าสิบสตางค์เป็นเจ็ดสิบห้าสตางค์) ราคาใหม่นี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๙๗เป็นต้นไปการขยายออกเป็นแปดคอลัมน์นั้นขนาดของกระดาษก็มิได้ขยายกว้างหรือยาวขึ้นกว่าเก่า เพียงแต่ “บีบอก” ให้แคบเข้ามาอีกหน่อยแล้วบีบเนื้อที่ของแต่ละคอลัมน์ซึ่งถ้าจำไม่ผิด คอลัมน์มีความกว้าง ๕.๕ เซนติเมตร ก็สามารถทำให้เป็นแปดคอลัมน์ได้ ดูเหมือนร่นแล้วหนึ่งคอลัมน์เหลือราวๆ ๕ เซนติเมตรการทำเป็นแปดคอลัมน์ประโยชน์ที่ได้โดยตรงคือ การคิดค่าโฆษณาที่เอาความสูงคูณกับขนาดคอลัมน์ เช่น ใช้เนื้อที่สองคอลัมน์ สูงหนึ่งนิ้วเท่ากับสองคอลัมน์-นิ้ว คูณด้วยอัตราค่าโฆษณาที่กำหนดไว้เป็นคอลัมน์-นิ้วละเท่าไหร่...เรียกว่าได้เงินเพิ่มนั่นแหละในเดือนกัดมาคือมีนาคม รายการ “มีท เดอะ เพรส” ยังอยู่ วันที่๙ มีนาคม ๒๕๙๗ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีแต่งสูทสืขาวเนคไทเขียว ที่กระเป๋าซ้ายของเสื้อนอกแลบด้วยผ้าเช็ดหน้ามีลายเล็กๆมีนักข่าวไปนั่งเก้าอี้ไม่กี่คน จอมพล ป.ก็เลยถือโอกาสบอกว่าไม่มีเรื่องสำคัญที่จะแถลง ขอทำหน้าที่เป็นผู้ตอบปัญหาหรือคำถามก็แล้วกันจะว่าไป ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีก็มาถึงห้องแถลงล่ากว่ากำหนดถึงครึ่งชั่วโมง คือกำหนดเวลา ๑๐.๐๐ น. แต่มาถึงเวลา ๑๐.๓๐ น. รายการ“มีท เตอะ เพรส” จึงลดความน่าสนใจไปหาความกร่อยลงทุกทีและเลิกไปในที่สุดไม่ทราบเหมือนกันว่ารายการ “มีท เดอะ เพรส” ของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร จะมาแนวเดียวกันหรือไม่เทียงแต่

“มีท เดอะ เพรส” แล้ว ฯพณฯ ก็ยังให้ล้มภาษณ์แบบรุมล้อมเหมือนเดิมปี ๒๔๙๗ นี้ต้องถือว่าเป็นจุดหักเหไม่น้อยเลยของ “ค่ายสี่พระยา”เพราะได้มีการเจรจากันระหว่างนายแสง เหตระกูล กับคุณสนิท เอกชัยที่จะให้เข้ามานั่งทำหน้าที่แทนคุณสมบูรณ์วิรียศิริ ซึ่งมีผลงาน1โม่เข้าตาและทำท่าจะลดลงด้วยชํ้าความเป็นเพื่อนที่รักใคร่กันไม่น้อยทำให้คุณสนิทต่อรองขอให้คุณสวัสดิ้ ตัณฑสุทธี้ บรรณาธิการข่าวต่างประเทศรับหน้าที่บรรณาธิการแทนโดยคุณสนิทจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการมีการเจรจากันต่อเนื่องจนกระทั่งเป็นที่ตกลงกันได้ในเดือนกรกฎาคม๒  เครื่องไล่หนูราคาถูก ป้ายซื่อที่แสดงตำแหน่งบรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการปรากฏในวันที, ๖ กรกฎาคม...ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจึงเกิดขึ้นกับ “เดลิเมล์รายวัน”เฉพาะอย่างยิ่งในหน้า มีคอลัมน์ “ศาลาสารพัดนึก” ที่ควบคุมโดย“ทินกร ลดศรี” กำหนดเปิดศาลาในวันที่ ๑๑ กรกฎาคมการพ้นหน้าที่ของคุณสมบูรณ์นั้นยังคงปรากฏซื่อเป็นที่ปรึกษาอยู่นักข่าวเกือบทั้งหมดไม่มีผูใดลาออก มีการปรับรูปแบบการเขียนข่าวสำคัญประจำวันด้วยการให้ “หัวตอน” โดยใช้ประเด็นในเนื้อข่าวส่วนนั้นขึ้นมาเป็นตัวพิเศษ (ใช้ตัวกลางหนา) ก่อน แล้วจึงเป็นเนื้อหาของข่าว ฉะนั้นจะมี “หัวตอน” เป็นระยะๆ ไปจนจบข่าวนั้นคอลัมน์ “มุมกลับ” ที่มืมาแต่แรกเริ่มได้เปลี่ยนไปเป็น “จี้เล้น” ในหน้าสามที่มีการเสนอข่าวที่เก็บมาช่วงเช้าและข่าวต่างจังหวัด ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือน “น้าหอม” จะรับภาระเหมือนเดิม



เครื่องไล่หนูไฟฟ้า

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เครื่องไล่หนูของแท้ของปลอมสังเกตุอย่างไร





เครื่องไล่หนูไฟฟ้าราคา

 “เธอไม่นับถือ โพซี...บทกวีของฉัน” คำบ่นตามปกติของเขาต่อโลก “ฉันมีธรรมเนียมที่จะส่งบทกวีให้เธอทางโทรศัพท์ทุกเช้า ฉันเคยบอกนายแล้วนี่’’“จริง เหรอ” ผมคงต้องปกปิดความสยองขวัญที่เขาทรมานหญิงสาวผู้น่าสงสารไว้ บทกวีของเขาจริงๆ แล้วมันก็คือรายงานเรื่องการสืบพันธุโดยดึงเอาส่วนที่โรแมนติกออกไปหมดนั่นแหละ“เออสิ และนายรู้มั้ย ฉันพบว่าเธอลบมันออก”“ลบออกเหรอ”“ใช่เพื่อน เหลือเชื่อเลยมั้ยล่ะ”“ใช่” ผมพูด แต่ในใจบอกว่า ไม1เลยว1ะ มันเป็นอะไรที่ไม่เหลือเชื่อเอามากๆ การลบบทกวีของเขาเป็นกลไกป้องกันตัวตามธรรมชาติพอๆ กับการหลับตาเมื่อยุงสักตัวพยายามจะเอาหัวโหม่งเบ้าตาคุณ“ก็ใช่น่ะสิ ฉันถามเธอว่าขอฉันดูโทรศัพท์หน่อย เผื่อจะฃอก๊อบปีบทกวีเก็บไว้ด้วย แล้วเธอบอกว่าเธอลบมันไปแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยชิงเธอซะ”“นายชิงเธอเหรอ” นี่เป็นคำใหม่สำหรับผม ผมแค,หวังว่ามันจะไม่มีความรุนแรงนะ “แล้วนายมาทำอะไรที่ไมอามีนี่วะ ฉันนึกว่านายจะเดินทางรวดเดียวจบด้วยรถเกรย์ฮาวนด์ตรงไปที่สนามบินออร์แลนโดเลยเสียอีก”“ใช่'’ เขาดูเจ็บปวด “ฉันฟ่มเฟือยไปหมดแล้ว” แปลว่า เขาใช้เงินไปหมดแล้ว “ฉันมีเงินพอแค่มาถึงไมอามี ฉันกำลังคิดว่านายจะพาฉันไปเนวาดาด้วยรถของนายไดรึเปล่า”“ เครื่องไล่หนูในรถยนต์ ในรถมินิเนี่ยนะ แต่มันมีที่พอแค่อเล็กชา ฉัน แล้วก็กระเป้าของพวกเรา อีกอย่างฉันก็ไม่ได้จะไปเนวาดาด้วย”“ไปสิ นายบอกว่านายจะไปลาสเวกัสนี่

"“ลาสเวกัสอยู่ในเนวาดาเหรอ” ตลกจัง ผมไม่เคยคิดถึงลาสเวกัสในแง่ว่ามันอยู่ในรัฐไหนมาก่อน มันคือลาสเวกัสก็แค1นั้น ความถี่ไล่หนูเหมือนวอชิงตันก็เป็นแค่วอชิงตัน“ใช่แล้วเพื่อน’' เจ้คดูดซิการ์อย่างอิ่มเอมหนึ่งที ดูเหมือนเขาจะคิดว่าเขาได้ที่นั่งในรถมินิเรียบร้อยแล้วด้วยการอธิบายสถานที่ของเมืองให้ผมรู้“ฉันต้องคุยกับอเล็กชาก่อน” ผมพูด ถ้าเธอกลับมานะ “ตอนนี้นายช่วยไปดูให้ทีสิว่าฉันจะเข้าไปอาบนํ้าได้หรือยัง ได้โปรด”เมื่อผมออกมาพบกับแสงอาทิตย์ข้างนอกพร้อมด้วยผมเปียกๆและเสื้อยืดที่เปียกติดหลังชุ่มโชก ส่วนเฮชุสกำลังเดินไปที่คาเฟ่ตรงนอกชาน เขาสวมเสื้อสูทสีฟอกขาวและเสื้อโปโลเชิ้ตสีฟ้าซีด ดูเหมือนทุกสิ่งเกี่ยวกับเขา ไล่หนูบนฝ้า รวมทั้งผิวและผมของเขานั้นเพิ่งจะถูกชักแห้งมาสดๆร้อนๆ“ไง เพื่อน” เขาพูด ใส่ความรู้สึกเวอร์น้อยกว่าปกติ“หวัดดี เฮชุส พวกนักเต้นอยู่ที่ไหนล่ะ”"อาาา” เขาถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ และทั้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างแรงตรงโต๊ะใหญ่ตัวหนึ่งที่ถูกจัดไว้สำหรับมื้อสายของเรา “พวกนั้นบ้าซิบเป๋ง"“มีอะไรเหรอ’’“พวกเขาบอกผมเรื่องบ้าๆ อะไรสักอย่างเกี่ยวกับ ดัน-เฟิร์ม-  วิ,ซ...ดันเฟิร์ฟาร์"“ดันเฟิร์มลินเหรอ ใช่สิ ผมว่าจะคุยกับพวกนั้นเรื่องนี้ด้วย”“เอาเถอะ ลืมไปได้เลยเพื่อน พวกเขาเป็นไอ้ขี้แพ้อยู่แล้ว” เขาฟาดมือกับโต๊ะเหมือนพระราชากำลังสั่งปลดมหาดเล็กน่าเบื่อไปโขยงหนึ่ง“คุณหมายความว่าไง”“ผมหมายความว่า นี่เป็นโอกาสดีเลิศในการแสดงของพวกเขาถูกมั้ย พวกเขาได้เต้นในที่สาธารณะ ทุกคนได้เห็นเขา แล้วพวกเขายังอยากให้ผม/จ,ายเงินให้เชาอีก แล้วก็เริ่มทำตัวงี่เง่าเรื่อง ดัน-ชิบ- ห่าไรนั่นลืมพวกนั้นไปเถอะเพื่อน ผมเตะตูดมันไปแล้ว”“งั้นเราก็'ไม,มีนักเต้นเหรอ พระเจ้าช่วย เฮ-ซูสสสส”“เดี๋ยวเราก็หานักเต้นได้เองละน่า กำจัดหนู ไมอามืน่ะเต็มไปด้วยนักเต้นน.ะ”“ไมใช่นัก เต้นระบำสกอตน่ะสิ”“แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ มันก็คือการเต้นรำถูกมั้ย แค่ดนตรีแตกต่างกัน...เฮ้ ที่รัก” เขาลืมปัญหาของผมไปอย่างรวดเร็วเมื่อสาวคนหนึ่งร่อนผ่านไป ทำทำเหมือนกับกำลังเต้นแทงโก้เพียงคนเดียวก็พอเข้าใจได้ครับว่าในเวลาน้อยนิดขนาดนี้ สุรายาคงไม่สามารถจิ้มนิ้วของเธอหากลุ่มนักเต้นสกอตแถวนี้ได้ อย่างใกล้สุดก็คงแถวโนวาสโกเชีย1 ในแคนาดา ดูเหมือนเธอจะมีปัญหากวนใจอีกอย่างคือเพื่อนบ้านของเธอเสนอให้เธอยืมสกูตเตอร์ของเขาในขณะที่เขาติดรถไปทำงานกับเพื่อนคนหนึ่ง แต่เธอไม,แน่ใจว่าจะดีหรือไม่ที่จะตกลงตามข้อเสนอนี้ แล้วเธอก็ดูจะสนใจความเห็นของผมเกี่ยวกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอครั้งนี้มากกว่าความตื่นตระหนกของผมที่ไม่มีอะไรจะจัดในงานอีเวนต์เสียอีก! โนวาสโกเชีย (Nova Scotia) จังหวัดหนึ่งทางตะวันออกของประเทศแคนาดา เป็นพื้นที่

เครื่องไล่หนู